ลงทุน ลงแรง

เส้นทางการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง... ก็รู้แล้ว ทางลัดที่จะทำให้เป็นเจ้าของกิจการได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น... ก็รู้แล้ว และก็ยังรู้อีกด้วยว่า ไม่มีเส้นทางไหนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะไม่ว่าจะเป็น เจ้าของกิจการของตัวเอง หรือเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้น ก็ต้องอาศัยความรู้ และความเข้าใจด้วยกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ทำให้การเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้นได้เปรียบกว่าและน่าสนใจกว่า การเป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง คือ “การลงทุน” และ “การลงแรง”

เพราะการเป็นเจ้าของกิจการ ผ่านการลงทุนในหุ้น ใช้เงินทุนน้อย มากเมื่อเทียบกับเงินทุนที่ต้องใช้ใน การก่อร่างสร้างกิจการ ลองคำนวณ กันเล่นๆ ว่า ถ้าอยากจะเป็นเจ้าของ ธนาคารต้องใช้เงินสักกี่ร้อยกี่พันล้าน แล้วถ้าเป็นโรงพยาบาลจะสักกี่สิบ กี่ร้อยล้าน หรือลองคิดดูว่าต้องใช้เงิน กี่บาทสำหรับธุรกิจที่เราสนใจ
เงินทุน 20,000-30,000 บาท คงแทบจะไม่มีความหวัง เพราะฉะนั้นถ้า “บ้านไม่รวย” ไม่มีเงินทุนจากครอบครัวสนับสนุน คงต้องเก็บความฝัน ใส่ลิ้นชัก แล้วไปเป็นมนุษย์เงินเดือน เพื่อที่จะเก็บเงินมาเดินตามความฝันกันต่อในอนาคต

แต่เงินลงทุนเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เราเป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยไม่ต้องรอ และเพราะการเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้น แทบจะไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย เหมือนกับการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตัวเอง ที่รับรองได้เลยว่า เหนื่อย หนัก แน่นอน ขณะที่ “งานหนัก” ที่สุดของการเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้น คือ การคัดเลือก หุ้นดีที่น่าลงทุน และหาจังหวะที่จะลงทุน ส่วนงานอื่นๆ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ “ผู้บริหารมืออาชีพ” ที่จะทำให้บริษัทมีกำไรที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ การเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้น ยังมีความเสี่ยงต่ำกว่า เพราะ บริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องมีกำไรมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี ซึ่งทำให้พอเบาใจได้ว่า บริษัทได้ผ่านการพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาลุ้นเหมือน การตั้งบริษัทขึ้นใหม่ว่า จะล้มลุกคลุกคลานกันไปอีกกี่ปี

Learn and Earn

แม้ว่า การเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้นจะลงทุนน้อย และไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา “มันยิ่งใหญ่มาก” เพราะข้อดีของการลงทุนในหุ้นก็คือ ได้เรียนรู้และได้รับผลตอบแทน หรือถ้าจะพูดให้ดูเท่ๆ ขึ้นมาอีกนิดก็คือ Learn and Earn

Learn

ถ้าเป็นเมื่อก่อน (ก่อนที่เราจะเจอกัน) เราจะทำอย่างไร ถ้าความฝันที่จะเป็น เจ้าของกิจการ มันใหญ่กว่า “เงินทุน” ที่เรามี

  • ทิ้งความฝัน (ซึ่งมันเป็นเรื่อง ที่น่าเศร้ามาก)
  • เก็บเงินให้มากพอ (ซึ่งไม่รู้ว่า เมื่อไรจะถึงวันนั้น)
  • ดันทุรังเดินหน้ามันต่อไป (แต่สุดท้ายก็ไปไม่ไหว เพราะเงินทุนไม่มากพอ)

แต่ตอนนี้ เราเจอกันแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำ จะเป็นข้อ ง. คือ รักษาความฝันนั้นไว้ และค่อยๆ ก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย ด้วยการเริ่มต้นลงทุนหุ้นของบริษัทที่เราสนใจ เพื่อจะศึกษาการทำธุรกิจ (เพราะมันเท่กว่ากันเยอะเลย)

และเชื่อว่า ในจำ นวนบริษัทที่ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีมากกว่า 500 บริษัท จะต้องมีสักบริษัทที่ ทำธุรกิจเดียวกับที่เราฝัน (หรืออย่างน้อยก็ทำธุรกิจคล้ายๆ กัน หรือเกี่ยวข้องกัน) ให้เลือกลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ปั๊มน้ำมัน ห้างค้าปลีก ธุรกิจอาหาร ร้านหนังสือ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จิวเวลรี่ เป็นต้น เมื่อเจอบริษัทที่ดี ที่ทำธุรกิจแบบที่ เราอยากทำ ก็เลือกลงทุนได้เลย แล้วเรา จะได้เริ่มต้น Learn กันอย่างจริงจัง เพราะเราสามารถใช้สิทธิในฐานะของผู้ถือหุ้น ศึกษาวิธีการบริหารงาน แบบมืออาชีพ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

เพราะเรียนจากตำราหรือจะสู้เรียนรู้จากประสบการณ์ และการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ช่วย “ย่นระยะเวลา” ที่จะไปให้ถึง เป้าหมายให้สั้นลง เพราะเราไม่ต้อง “ลองผิด” แต่เดินหน้า “ทำสิ่งที่ถูก” ได้ทันที

แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่คนทั่วๆ ไปจะสามารถ “เข้าถึงตัว” ผู้บริหารบริษัท ในระดับท็อปของประเทศได้ แต่ในฐานะผู้ถือหุ้นเราสามารถทำได้ เรามีโอกาสที่จะพบผู้บริหารแบบตัวเป็นๆ มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และผู้บริหารก็มักจะยินดีตอบคำถามที่เป็นประโยชน์ จากผู้ถือหุ้นเสมอ

ดังนั้นสิ่งที่เราจะพลาดไม่ได้เลย คือ การประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งโดยปกติบริษัทจะจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง เพื่อสรุปสถานการณ์ในปีที่ผ่านมาให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการตัวจริงได้รับฟัง พร้อมทั้งมองไปข้างหน้าด้วยว่า บริษัทจะเดินไปในทิศทางไหน

อีกรายการหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คือ กิจกรรม “บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน” หรือ Opportunity Day ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดขึ้นเป็นประจำ ทุกไตรมาส เพื่อให้ผู้บริหารได้มีโอกาสให้ข้อมูลกับนักลงทุน

นอกจากนี้ ยังต้องอ่าน รายงานประจำปี เพราะในนั้น “ซ่อนของดี” ไว้เพียบ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่หยิบขึ้นมาเปิดอ่าน แต่สำหรับคนที่เป็นเจ้าของกิจการ พลาดไม่ได้เด็ดขาด

Earn

นอกจากการเรียนรู้กลยุทธ์การบริหารงานของผู้บริหารบริษัทชั้นนำในประเทศ แล้ว “นกตัวที่สอง” ที่เรายิงได้จากการลงทุนหุ้นเพียงอย่างเดียว คือ “รายได้” ซึ่งเป็นรายได้จากเงินปันผล หรือกำไรส่วนต่างจากการขายหุ้น

หลายคนอาจจะคิดว่า เงินปันผลจากหุ้นไม่กี่ร้อยหุ้นจะได้สักกี่บาทกันเชียว แต่สำหรับ “เจ้าของกิจการ” แล้ว พวกเขาไม่เคย “ดูหมิ่นเงินน้อย” เพราะแม้ว่า เงินปันผลที่ได้ในวันนี้อาจจะดูว่า “เล็กน้อย” แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราทยอยสะสมหุ้น ไปเรื่อยๆ จากร้อยหุ้น เป็นพันหุ้น เป็นหมื่นหุ้น หรือเป็นแสนหุ้น ในวันนั้นเงินปันผล ที่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกแล้ว และที่ลืมไม่ได้เลย คือ เงินปันผลที่ได้จากการลงทุนมันเป็นรายได้ที่เราไม่ต้อง ลงแรง เพราะเรา “ให้เงินทำงาน” แทนเรา ซึ่งเงินจะไม่หยุดทำงาน แม้ว่า เราจะ หยุดทำงานไปแล้วก็ตาม นี่ต่างหากที่เป็น “อิสรภาพทางการเงิน” และ “อิสรภาพทางเวลา” ที่พวกเราฝันถึง

นอกจากนี้ ในระหว่างที่เราเฝ้ารอให้บริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ตามมา คือ “ราคาหุ้น” จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และถ้าเราเฝ้ารอมันนานพอ หุ้นจะทำกำไรให้เรา เป็นกอบเป็นกำ เหมือนกับเรา ออมเงินไว้ในหุ้น และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เงินก้อนนั้นยังเป็นทุนในการเริ่มต้นความฝันที่จะเป็นเจ้าของกิจการของ ตัวเองได้ด้วย และในวันหนึ่งข้างหน้า ธุรกิจเล็กๆ ของเราอาจจะกลายเป็น “บริษัทมหาชน” ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้ ใครจะไปรู้ เมื่อวันนั้นมาถึง เราก็รู้จักขั้นตอน กระบวนการ อย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว

ความสำเร็จรออยู่ข้างหน้า

คนที่มี “จิตวิญญาณ” ของความเป็นเจ้าของกิจการอยู่ในตัว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จในฐานะนักลงทุน เพราะเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จก็มีบุคลิกแบบเดียวกันกับนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือ

  • มีเป้าหมายในการลงทุน ที่ชัดเจน
  • ยินดีที่จะทุ่มเทแรงกาย และแรงใจเพื่อก้าวไปสู่ ค วามสำเร็จ
  • อดทนที่จะรอดูการเติบโต ของกิจการที่เราเป็นเจ้าของ
  • มี “แผนสอง” ไว้รองรับ สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเสมอ
  • พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

และการเรียนรู้สิ่งใหม่ในการเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะมี “ผู้ใหญ่ใจดี” คอยให้การสนับสนุน

ไม่ว่าจะเป็นความรู้และกิจกรรมจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กิจกรรมสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่บริษัทหลักทรัพย์ หลายแห่งจัดขึ้น การสัมมนาให้ความรู้ ไปจนถึง การทดลองลงทุนแบบเหมือนจริง แต่ไม่ต้องใช้ เงินจริง เพื่อให้ได้ลองภูมิกันก่อนลงสนามจริง เพราะการเป็นเจ้าของกิจการผ่านการลงทุนในหุ้นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้

นอกจากนี้ คนที่ไม่ได้คิดจะเป็นเจ้าของกิจการก็สามารถลงทุนได้เช่นเดียวกัน เพราะการลงทุนทำให้ “มนุษย์เงินเดือน” มีโอกาสรวยได้แบบเจ้าของกิจการ