ซีอีโอหัวหน้าหน่วยธุรกิจและผู้จัดการประจำประเทศจะต้องทำอะไรบ้าง

คุณพร้อมสำหรับสิ่งนี้หรือยัง?
เมื่อผ่านพ้นกับสภาวะเศรษฐกิจมาได้เหตุการณ์นั้นเป็นด่านทดลองซีอีโอหลายคน และมีผู้นำที่สามารถผ่านสถานการณ์นี้มาได้ คือ เจพีมอร์ แกนเชส ธนาคารแห่งชาติที่มีเจมี ดิมอน (Jamie Dimon) เป็นซีอีโอ ส่วนตัวจอห์น เธน (John Thain) ซีอีโอของเมอร์ริลล์ ลินซ์ กลับมารับตำแหน่งประธานของฝ่ายจัดการธุรกิจการธนาคารทั่วโลกและธุรกิจหลักทรัพย์ของ BofA ซีอีโอที่สามารถผ่านสถานการณ์มาได้นั้นเป็นเพราะซีอีโอรู้จักใช้ความคิดและคาดการณ์ล่วงหน้า มีการเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์และสามารถปรับตัวให้เข้าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
และยังมีซีอีโออีกหลายคนยังประมาทกับการบริหารงานและคิดเอาแต่ได้ในผลประโยชน์ ไม่ยอมบริหารงานเองให้คนอื่นบริหารงานแทน เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทำให้บริษัทเล่านี้ปิดตัวลงเพราะผู้นำของบริษัทขาดความรู้ความสามารถในการบริหารงาน ดังนั้น ซีอีโอจะต้องมองว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไร และแสดงความเป็นผู้นำออกมาและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา รวมถึงการตัดสินใจกับเรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานภายในบริษัท และงานที่ซีอีโอต้องทำในตอนนี้มี 2 อย่าง คือ
1. ความเป็นผู้นำ สร้างแรงจูงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงาน
2. ต้องบริหารงานให้ประสบความสำเร็จ

ความจำเป็นต้องนำ
ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นซีอีโอจะต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองรวมทั้งในเวลาที่บริษัทอยู่ในสถานการณ์ที่ดีและสถานการณ์ไม่ดี อีกทั้งต้องใช้ความรู้ความสามารถในการบริหารบริษัทให้ประสบความสำเร็จและพร้อมที่จะพัฒนาบริษัทอยู่เสมอ และคิดหาสิ่งใหม่ๆ กำลังจะสามารถรับมือกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
ตระหนักในสภาพตามความเป็นจริง
งานที่ซีอีโอต้องทำในตอนนี้ ถือว่าอยู่บนความไม่แน่นอน การที่ซีอีโอบางคนไม่ยอมรับความจริงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกลัวให้กับตัวเอง เหมือนกับที่ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt) ที่พูดว่า “เราจะต้องพยายามต่อสู้กับความน่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีเหตุผล ไม่สมควร และไม่อาจบอกได้นี้ เพื่อเปลี่ยนการถอยร่นของเราให้กลายเป็นการรุกคืบไปข้างหน้าให้ได้” ถ้าหากซีอีโอมีแต่หลบปัญหาไม่กล้าออกมาแก้ปัญหารอให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นให้ผ่านพ้นไปเองเป็นการแก้ปัญหาที่ผิด ดังนั้นสิ่งที่ซีอีโอต้องทำคือ ต้องยอมรับความจริงกับปัญหาที่เกิดขึ้นและหันมาแก้ปัญหา ถ้าซีอีโอไม่ทำในตอนนี้อาจจะสูญเสียบริษัทของตัวเองไปได้

เปลี่ยนความคิดบริษัทคุณ
การบริหารงานตัวผู้บริหารจะต้องทำให้พนักงานในบริษัทนั้นเกิดความเชื่อมั่นในการบริหารงานในช่วงที่เจอเศรษฐกิจไม่ดี และตัวผู้บริหารเองต้องมีการปรับรูปแบบการบริหารโดยบางครั้งอาจจะต้องการลดจำนวนพนักงานให้น้อยลงและบอกเหตุผลให้กับพนักงาน ได้รับรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัท พร้อมกับวางแผนในการแก้ไขปัญหารวมถึงการประชุมร่วมกับผู้บริหารฝ่ายต่างๆ หุ้นส่วนของบริษัท ผู้บริหารอาวุโสให้มารับรู้ถึงปัญหาร่วมกันและช่วยกันแสดงความคิดเห็นต่อปัญหาที่เกิดไม่ว่าจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาและช่วยกันกำหนดทิศทางต่างๆ เพื่อให้บริษัทผ่านพ้นปัญหา

กล้า
บริษัทของซีอีโอหลายคนมีการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี ในขณะช่วงที่เศรษฐกิจดีมีการปรับปรุงแผนของบริษัทค่อยๆ เป็นค่อยๆไป แต่เมื่อไรที่เศรษฐกิจไม่ดีซีอีโอต้องกล้าที่จะปรับปรุงแผนของบริษัทของตัวเองใหม่อย่างรวดเร็ว เมื่อซีอีโอปรับแผนแล้วซีอีโอจะต้องมีความเชื่อมั่นในการตัดสินใจในการปรับในครั้งนี้ รวมถึงซีอีโอจะต้องการเตรียมความพร้อมกับสิ่งๆ ที่เกิดขึ้น เช่น เมื่อคู่แข่งเกิดสะดุดล้ม เมื่อเจอเศรษฐกิจไม่ดี ซีอีโอสามารถเข้าไปเก็บส่วนแบ่งการตลาดของคู่แข่งได้ หรือไม่ก็เข้าไปซื้อบริษัทของคู่แข่งเพราะอาจจะเป็นประโยชน์ในอนาคตข้างหน้า รวมถึงยังได้พนักงานที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานให้กับบริษัท เมื่อได้พนักงานที่มีความรู้ความสามารถแล้วเพื่อให้พนักงานเกิดความเชื่อมั่นในการบริหาร ซีอีโอจะต้องวางแผนการดำเนินมีประสิทธิภาพพร้อมกับสร้างความเชื่อมั่น แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของบริษัท อีกทั้งกล้าที่จะนำแผนเดิมที่ได้วางไว้มาใช้ ในตอนที่เศรษฐกิจดีขึ้นมาปรับใช้ เพื่อที่จะได้แนวคิดดีๆ หลายๆ ด้านมาใช้

จัดสรรเวลาของคุณใหม่
ผู้บริหารจะต้องลงมาทำงานในส่วนต่างๆ มากขึ้น เพื่อที่จะได้เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ในสภาพความเป็นจริง รวมถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของบริษัทที่ต้องให้ความสำคัญและเอาใจใส่ พร้อมกับลงมาทำงานในระดับล่างหรือระดับปฏิบัติการอย่างใกล้ชิดถึงแม้จะมีพนักงานที่ชำนาญงานในการทำงานอยู่ก็ตามแต่ตัวผู้บริหารต้องเข้าไป ดูแลเองและควบคุมคุมการดำเนินในส่วนนี้ ตัวผู้บริหารเองจะต้องให้เวลาและทุ่มเทกับการทำงานภายในบริษัทมากขึ้นกว่าเดิม ลดการทำงานข้างนอกน้อยลง เช่น ติดต่องาน รวมถึงการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ต้องคำนึงถึงปัญหาเฉพาะหน้าและอนาคตของบริษัทควบคู่กันไปเสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ตัวผู้บริหารเองต้องทำเพื่อจะนำบริษัทก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จ

ปกป้องแกน
ทุกๆ บริษัทมีสินทรัพย์ที่มีค่านั้นก็คือ ลูกค้า พนักงานที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องต่างๆ เช่น เทคโนโลยี การผลิต หรือโลจิสติกส์ บางบริษัทมีตราสินค้าเป็นของตัวเองที่ทำให้คนรู้จัก ตัวเป็นสิ่งผู้บริหารจะต้องรักษาไว้ รวมถึงการแก้ปัญหาในส่วนนี้ด้วยตัวผู้บริหารจะต้องใช้ความคิดเพื่อที่จะหาทางออกที่ดีเก็บสิ่งสำคัญนี้ไว้ให้อยู่กับบริษัทต่อไป

ประเมินทีมที่เป็นมือดีที่สุดของคุณใหม่
ในเวลานี้พนักงานเป็นบุคคลสำคัญของบริษัท ถ้าหากบริษัทได้พนักงานที่มีทักษะความรู้ความสามารถในการทำงานก็จะเป็นส่วนหนึ่งให้บริษัทประสบความสำเร็จได้ รวมถึงผู้บริหารอาวุธโสที่มีทักษะในการทำงานมานานคอยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆ ส่วนตัวผู้บริหารที่จะต้องทำในตอนนี้ คือ ประเมินการทำงานของพนักงานในบริษัท เพื่อที่จะได้พนักงานที่ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน
ในการทำงานรวมกันพนักงานเข้ามาทำงานในบริษัทแล้วมักเกิดการทะเลาะกันมีความเข้าใจไม่ตรงกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ผู้บริหารจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและพูดคุยกับพนักงานให้ปรับความเข้าใจกัน เพื่อที่จะไม่ให้การทำงานนั้นเกิดปัญหาและสามารถทำงานรวมกันได้
ส่วนระบบการทำงานผู้บริหารจะต้องแบ่งออกเป็นแผนก เพื่อที่จะให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพและให้พนักงานแต่ละแผนกได้สร้างผลงานของแผนกตัวเอง แต่เมื่อมีการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัททุกแผนกต้องมารวมกันตัดสินใจและรู้เป้าหมายบริษัท และผู้บริหารต้องมีการประเมินพนักงานในการทำงานในด้านความรู้ ความสามารถ ทักษะการทำงาน ของพนักงานว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ต้องทบทวนกระบวนการทำงานของบริษัทใหม่ แต่ถ้าผ่านเกณฑ์พนักงานทุกคนจะต้องมีความเข้าใจตรงกันรับรู้การทำงานที่ชัดเจน และเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าพนักงานนั้นมีความพร้อมที่จะทำงานให้กับบริษัทรวมถึงการมีเป้าหมายเดียวกันคือการมุ่งไปสู่ความสำเร็จ

มีความโปร่งใส
หน้าที่สำคัญของผู้บริหารในตอนนี้ต้องทำมีอยู่ 2 อย่าง คือการสื่อสารและการจูงใจ
ในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้บริหารต้องมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและต้องนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ อีกทั้งผู้บริหารจะต้องมีเทคโนโลยีไว้เพื่อที่จะได้ติดต่อกับผู้บริหารระดับสูง และบริษัทอาจจะนำระบบอินทราเน็ตเป็นระบบที่ใช้ได้เฉพาะหน่วยงานเข้ามาใช้ในการเก็บข้อมูลสามรถเปิดดูเฉพาะผู้บริหารระดับสูงได้เท่านั้น พนักงานคนอื่นๆไม่สามารถเข้ามาดูได้ และจะต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาระบบและคอยป้อนข้อมูลเข้าระบบที่ได้มาจากส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขายและการตลาด และตัวผู้บริหารจะต้องมีการติดต่อพูดคุยกับฝ่ายขายและการตลาด โดยทางโทรศัพท์ทุกวันเพื่อสอบถามหาข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ส่วนฝ่ายขายและการตลาดนั้นนำข้อมูลมาส่งบริษัททุกวันวันละ 1 คน ทำให้บริษัทได้ข้อมูลใหม่ๆ เพิ่มขึ้นและแตกต่างกัน ส่วนเรื่องของการประชุมพนักงานจะต้องมีการจัดเดือนละครั้ง เพื่อนำความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันรวมทั้งการนำไปแก้ปัญหา เมื่อทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีก็สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปได้

ออกมาปรากฎตัว
ในเหตุการณ์อย่างนี้การจูงใจพนักงานของบริษัททำได้ยาก ฉะนั้นผู้บริหารจะต้องมีเป้าหมายหรือวิสัยทัศน์ในการทำงานที่จะทำให้พนักงานปฏิบัติตามให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อที่จะเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ทำให้บริษัทมุ่งไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวได้ โดยที่ผู้บริหารเองสามารถทำได้โดยการยิ้มทักทายกับพนักงาน หรือแสดงความยินดีกับพนักงานเมื่อพนักงานปฏิบัติงานดี รวมทั้งการเดินเยี่ยมฝ่ายต่างๆในบริษัทเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้เป็นกันเองกับพนักงาน และพนักงานที่ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญคือพนักงานที่ติดต่อลูกค้า และหุ้นส่วน เพราะพนักงานรู้ข้อมูลต่างๆ เป็นอย่างดี และข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ต่อบริษัท

รู้ตัวเลขรายวัน
สิ่งสำคัญอย่างมากของบริษัท คือสถานะทางการเงินของบริษัท ตัวผู้บริหารจะต้องติดตามดูในส่วนของกระแสสด สินค้าคงคลัง กำไร และยอดลูกหนี้ทุกสัปดาห์ เพื่อนำมาวิเคราะห์ในส่วนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับงบประมาณของบริษัทใหม่โดยจะเป็นเดือนละครั้ง เพื่อที่จะจัดทรัพยากรของบริษัทได้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานในอนาคต การจัดทำส่วนต่างๆ นี้ต้องอาศัยส่วนที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันทำและช่วยกันตัดสินใจ

บริหารจัดการเพื่อเงินสด
การบริหารจัดการเงินสดนั้นเป็นการตัดสินใจในด้านสินค้า ลูกค้า เพราะจะต้องตัดบางตัวหรือบางรายการออกไป ซึ่งทำให้บริษัทจะต้องดำเนินการปรับปรุงเป้าหมายใหม่ รวมทั้งในเรื่องของยอดขายของบริษัทต้องปรับให้ลดลง เป็นผลดีในการช่วยลดค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทลง ทำให้บริษัทสามารถบริหารลูกหนี้ สินค้าคงคลัง และการผลิตได้ รวมทั้งสถานะการเงินของบริษัทอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้เงินสดของบริษัทที่นำไปใช้บริการจากภายนอกบริษัท เช่น การค่าโสหุ้ย รวมทั้งเรื่องการไล่พนักงานออกแต่ให้พนักงานมาทำงานภายนอกแทน จากเมื่อก่อนบริษัทเป็นคนใช้บริการแต่ตอนนี้บริษัทเอาพนักงานบริษัทไปทำแทน

ลดจุดคุ้มทุนเงินสดของบริษัทลง
ผู้บริหารจะต้องพิจารณาจุดคุ้มทุนที่ต่ำของบริษัทว่าเท่าไร? เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัท ฉะนั้นตัวผู้บริหารเองจะต้องรู้จักวางแผนหรือพิจารณาในการกำหนดเป้าหมายในการลดค่าใช้จ่ายในส่วนการบริหารงานทั่วไปลง ตัวผู้บริหารเองจะต้องใช้ความคิดให้รอบคอบในเรื่องการตัดสินใจว่ามีส่วนไหนภายในบริษัทส่งผลกระทบบาง เช่น การเก็บสินค้า ลูกค้ารายไหน และพนักงานคนไหนบางที่จะเก็บไว้กับบริษัท ถ้าหากผู้บริหารเลือกที่จะเอาพนักงานออกเป็นการลดค่าใช้จ่าย บริษัทจะต้องคิดในส่วนการจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานด้วย และการลดพนักงานจะต้องเริ่มจากพนักงานระดับบนก่อน ทั้งนี้ตัวผู้บริหารเองจะต้องดูว่าตำแหน่งงานบ้างไหนสามารถทำงานรวมกัน และรวมแผนกงานเข้าด้วยกันได้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้กับบริษัทเพราะเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

รู้เมื่อไรจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์
การตัดสินใจในเรื่องกลยุทธ์ของซีอีโอนั้น ในแต่ละครั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการของบริษัท ดังนั้นการเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทจะต้องดูว่ากลยุทธ์ที่ใช้ในตอนนี้สามารถนำมาใช้กับสภาพที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ แต่ในเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปซีอีโอจะต้องรีบเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ทันที รวมทั้งการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง อย่างไร สินค้าตัวไหนของบริษัทที่ทำให้ยอดไม่ตรงตามเป้า และซีอีโอจะต้องรู้จักคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอยู่ตลอดเวลาให้ทันกับเหตุการณ์ข่าวสารต่างๆ พร้อมกับหาข้อมูลในส่วนต่างๆ เพื่อที่ใช้ในการหาแนวทางที่ดีให้กับบริษัท เพื่อให้ผ่านพ้นปัญหาเศรษฐกิจไม่ดีนั้นให้ได้รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้กับบริษัท

ตั้งเป้าหมายแห่งความสำเร็จในระยะสั้น
บริษัทส่วนใหญ่ใช้เป้ารายปี และในการวัดความสำเร็จไปสู่เป้าหมายเป็นรายไตรมาส ดังนั้นในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง บริษัทจะต้องตั้งเป้าไว้เพื่อที่จะดำเนินงานให้สั้นลงไม่ว่าจะตั้งเป้าเป็นไตรมาส รายเดือน รายสัปดาห์ อย่างน้อยบริษัทก็จะได้มีความพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น
และในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้พนักงานจะต้องมีความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดอาการตกใจบ้างแต่พนักงานก็พร้อมที่จะรับมือ ทั้งนี้ตัวผู้บริหารเองจะต้องสังเกตการณ์ว่ามีส่วนไหนที่จะส่งผลกระทบบ้าง เช่น ปีหน้ายอดขายตกลงมา 10 เปอร์เซ็นต์ ผู้บริหารจะต้องมองต่อไปในเรื่องเกี่ยวกับยอดขายว่าจะตัดส่วนไหนออก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งผู้บริหารจะต้องพูดคุยกับส่วนต่างๆให้มีความเข้าใจตรงกันเพื่อให้ทุกคนปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้